ได้ CRYSTAL DRAGON เล่ม 30 มาแล้ว แต่มันยังไม่จบเลยนะ
55555
CRYSTAL DRAGON เป็นการ์ตูนของ
Ashibe Yuho ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1981 และเราก็ตามอ่านการ์ตูนเรื่องนี้มานานราว
40 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่มันตีพิมพ์ในไทยโดย “สำนักพิมพ์ยอดธิดา” แต่มันก็ยังไม่จบเสียที
555
------------
เราคิดไปเองคนเดียวหรือเปล่าว่า หนุ่มญี่ปุ่นไม่ค่อยล่ำบึ้กเท่าหนุ่มจีน,ไต้หวัน,
เกาหลีใต้
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เราชอบ Ryohei Suzuki ใน TOKYO MER (2023, Aya Matsuki,
Japan, A+30) มาก ๆ เป็นเพราะว่าเขาล่ำบึ้กดี 5555 และพอวันนี้เรา search
หารูปของ Ryohei Suzuki เราก็เลยนึกถึงประเด็นที่เราเคยหารือกับเพื่อนๆ
cinephiles ของเรา คือเรารู้สึกว่า เราไม่ค่อยเจอดาราหนุ่มญี่ปุ่นที่ล่ำบึ้กแบบเขามากนัก
คือมันก็มีดาราหนุ่มญี่ปุ่นแบบ Hiroshi Abe และ Mackenyu
นะ ที่รูปร่างล่ำ ๆ หน่อย แต่เหมือนโดยรวม ๆ แล้ว ดาราหนุ่มญี่ปุ่นมีหล่อมาก
ๆๆ หลาย ๆ คนจนนับไม่หวาดไม่ไหวก็จริง แต่รูปร่างของพวกเขาจะเป็นแนวสมส่วน กำลังพอดีน่ะ
ไม่ก็สูงโปร่ง (นึกถึง Hidetoshi Nishijima กับ Masaki
Okada) ไม่ค่อยเจอแบบล่ำบึ้กกล้ามใหญ่
ซึ่งเรารู้สึกว่า
มันแตกต่างจากหนุ่มจีน, หนุ่มไต้หวัน และหนุ่มเกาหลีใต้มาก ๆ เพราะใน instagram นั้น มีหนุ่ม 3
ชาตินี้ที่รูปร่างล่ำบึ้กเยอะมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ คือดูเหมือนมากกว่าหนุ่มญี่ปุ่นหลายเท่า
และเราว่าเราเจอ “หนุ่มอินโดนีเซีย” ที่หุ่นล่ำบึ้กมากกว่าหนุ่มญี่ปุ่นใน instagram
เสียอีก
และถ้าหากพูดถึง “ดารา” แล้ว เราว่าดาราหนุ่มญี่ปุ่นนี่คือขั้วตรงข้ามกับดาราหนุ่มอินเดียเลย
เพราะดาราหนุ่มอินเดียนี่คือขึ้นชื่อเรื่องเน้นความล่ำบึ้กมาก ๆ โดยเฉพาะ Tiger Shroff, Hrithik Roshan, John Abraham, etc. คืออยากให้มีคนทำ
essay film เพื่อเปรียบเทียบ “เรือนร่าง”
ของพระเอกหนังอินเดียกับพระเอกหนังญี่ปุ่นมาก ๆ 555555
เราก็เลยมีข้อสงสัยดังต่อไปนี้มาถามเพื่อน
ๆ ทุกคนค่ะ
1.เรา “เข้าใจผิด” ไปเองหรือเปล่าว่า
หนุ่มญี่ปุ่นโดยทั่วไปหุ่นไม่ล่ำบึ้กเท่าหนุ่มจีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้
เพราะเราไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศเลย และเราก็ไม่เคยเดินทางไปเหยียบ 4
ประเทศนี้ด้วย ข้อสันนิษฐานของเรามาจาก “การดูภาพยนตร์และเล่น instagram” เท่านั้น แต่เราเชื่อว่ามีเพื่อน ๆ หลาย ๆ
คนของเราเคยเดินทางไป 4 ประเทศนี้ และเคยมีเพศสัมพันธ์กับหนุ่ม ๆ หลาย ๆ
คนที่มาจาก 4 ประเทศนี้ เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ ที่มี first hand experience กับหนุ่ม ๆ 4 ประเทศนี้สามารถยืนยันกับเราได้เลยค่ะว่า
ข้อสันนิษฐานของเราผิดพลาด หนุ่ม ๆ ญี่ปุ่นหุ่นล่ำ ๆ อาจจะมีเยอะพอ ๆ กับหนุ่ม ๆ
จีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ก็ได้ เพียงแต่เราไม่เคยเดินทางไปสัมผัสกับหนุ่ม ๆ ใน 4
ประเทศนี้เท่านั้นเอง
2.แต่ถ้าหากข้อสันนิษฐานของเราเป็นจริง
ที่ว่าผู้ชายญี่ปุ่นไม่นิยมทำให้หุ่นตัวเองล่ำบึ้กแบบชาติเพื่อนบ้านทั้ง 3 ชาติ (และยิ่งไม่ต้องนับไปถึงอินเดียและอินโดนีเซีย)
แล้วสาเหตุอะไรที่ทำให้มันเป็นแบบนั้น
3.เพื่อนของเราคนนึงตั้งข้อสันนิษฐานว่า
มันเป็นเพราะ “พันธุกรรม” หรือเปล่า เหมือนคนจีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ มันอาจจะมีรหัสพันธุกรรมใกล้เคียงกับมองโกเลีย
หรือมีพันธุกรรมอะไรบางอย่างที่ทำให้ร่างกายล่ำบึ้กได้ง่าย ส่วนคนญี่ปุ่นอาจจะมีลักษณะทางพันธุกรรมจากอดีตที่ทำให้ตัวเล็กกว่าหรือเปล่า
หรือไม่งั้นก็ออกไปทางซูโม่ไปเลย
4.ส่วนเรามีข้อสงสัยว่า
ผู้ชายญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมไปยิมแล้วพยายามทำให้ตัวเองล่ำบึ้กแบบผู้ชายจีน,
ไต้หวัน, เกาหลีใต้ด้วยหรือเปล่า แล้วสาเหตุอะไรที่ทำให้ผู้ชายญี่ปุ่นไม่ค่อยทำให้ตัวเองล่ำ
ๆ แบบชาติเพื่อนบ้าน
คือเราสงสัยว่า มันเป็นเพราะ “ญี่ปุ่นไม่มีทหารนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง”
หรือเปล่า คือพอวัฒนธรรมทหารของญี่ปุ่นมันถูกยกเลิกไปตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ชายญี่ปุ่นนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นไป
เลยเน้นไปแสวงหา “ความเป็นเลิศทางธุรกิจ” แทน เหมือนชีวิตของผู้ชายญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จ
มักจะเป็นความสำเร็จในการทำงานในบริษัทเอกชนจนร่ำรวยอะไรแบบนั้นหรือเปล่า
เราก็ไม่แน่ใจ และพอ “ความสำเร็จของผู้ชาย”
ในญี่ปุ่นมักจะถูกวัดจากความสำเร็จทางธุรกิจอะไรแบบนั้น และไม่มี “ทหาร”
อยู่ในสังคม มันก็เลยส่งผลกระทบในทางอ้อมให้ผู้ชายญี่ปุ่นไม่นิยมทำให้ร่างกายตัวเองล่ำบึ้กด้วยหรือเปล่า
55555
คือเรานึกถึง Yukio Mishima น่ะ เพราะเขาล่ำบึ้กมาก แต่เขาเป็นฝ่ายขวา,
เชิดชูทหารอะไรทำนองนี้ เราก็เลยสงสัยว่าการที่เขาเป็นฝ่ายขวา, เชิดชูทหาร กับการที่เขาพยายามทำให้ตัวเองล่ำบึ้ก
มันมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงเป็นเหตุเป็นผลกันหรือเปล่า
ส่วนไต้หวันกับเกาหลีใต้นั้น เป็นสองชาติที่
“ทหาร” มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะชาติหนึ่งก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการรุกรานจากจีน
ส่วนอีกชาติหนึ่งก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการรุกรานจากเกาหลีเหนือตลอดเวลา เราก็เลยไม่รู้ว่าการที่บางชาติมีวัฒนธรรมทหารที่แข็งแกร่ง
หรือทหารมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในชาตินั้น ๆ
มันส่งผลกระทบในทางอ้อมให้ผู้ชายในชาตินั้น ๆ พยายามสร้างกล้ามให้ตัวเองด้วยหรือไม่
อันนี้ก็เลยเป็นข้อสงสัยที่เราตั้งขึ้นมาเล่น
ๆ น่ะ ว่า “การไม่มีทหารในญี่ปุ่นนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา
อาจจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายญี่ปุ่นไม่นิยมสร้างกล้ามมากเท่ากับผู้ชายจีน,
ไต้หวัน, เกาหลีใต้หรือเปล่าคะ” แต่เราอาจจะเข้าใจผิดไปเองก็ได้ 55555
เพราะเอาแค่ตัวเราเอง เราก็เกลียด “รัฐบาลทหาร”
อย่างรุนแรง แต่เราก็รักผู้ชายล่ำบึ้ก กล้ามใหญ่อย่างรุนแรง เหมือน “ความนิยมทหาร”
กับ “ความหลงใหลอยากเป็นทาสผู้ชายล่ำบึ้ก” ของเรา มันก็ไม่เห็นจะสัมพันธ์กันเลย
5555
รูปบนเป็นรูปของ Hong Xiao Long นายแบบจีน กับ Bruce Hey นายแบบไต้หวัน ส่วนรูปล่างน่าจะเป็นรูปหนุ่มเกาหลีใต้ กับรูปของ Ryohei
Suzuki
ขอเชิญเพื่อน ๆ แสดงความเห็นได้ค่ะ
Edit เพิ่ม:
เราเคยดูหนังสารคดีเรื่อง TASTE
OF WILD TOMATO (2021, Lau Kek Huat) ซึ่งในหนังสารคดีเรื่องนั้นมีการนำฟุตเตจเก่า
ๆ ของกองทัพญี่ปุ่นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองมาใส่ในหนัง
และฟุตเตจนั้นแสดงให้เห็นว่าทหารญี่ปุ่นล่ำบึ้กมาก หรือแสดงให้เห็นว่า
กองทัพญี่ปุ่นต้องการให้ทหารของตนเองมีรูปร่างล่ำบึ้กแบบในฟุตเตจ
https://web.facebook.com/photo/?fbid=10227984706986371&set=a.10225784745948720
No comments:
Post a Comment