Wednesday, November 22, 2023

WHEN I'M BACK ON MY FEET AGAIN

 

เมื่อวันจันทร์นู้น วันที่ 13 พ.ย. ผมออกไปดูหนัง 3 เรื่องครับ ซึ่งได้แก่ REDLIFE, CLUB ZERO และ “นาค เรื่องเล่าจากชาวบ้าน” ปรากฏว่าคืนนั้นผ้าปิดแผลเหมือนเริ่มหลุดครับ แล้วพอวันอังคารที่ 14 พ.ย.ผมไปหาหมอ หมอก็บอกว่าแผลแยก ต้องเย็บ max เพิ่มอีกสองอัน ผมก็เลยไม่กล้าออกไปดูหนังอีกครับ

 

เมื่อวานนี้ วันอังคารที่ 21 พ.ย. หมอบอกว่าแผลหายสนิทดีแล้ว ผมก็เลยฉลองด้วยการดูหนัง 3 เรื่องครับ ซึ่งได้แก่ DIGIMON ADVENTURE 02: THE BEGINNING, NEW GODS: YANG JIAN, DUMB MONEY

 

เพื่อนส่งรูปโบสถ์ในเมือง Neviges ของเยอรมนีมาให้ดู สร้างในปี 1968 ออกแบบโดย Gottfried Böhm หนักที่สุด ชอบมาก ๆ นึกว่าได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์แนว German Expressionism ในทศวรรษ 1920 พวกหนังของ Robert Wiene, Kalheinz Martin, F.W. Murnau 55555

 

ดูโบสถ์นี้แล้วรู้สึกว่ามันขลังมาก ๆ อยากให้สร้างหนัง THE NUN III  VS. SUSPIRIA II ที่โบสถ์แห่งนี้ในทันที โดยให้นางเอกจาก THE NUN สองภาคแรกกับสมุนสาวผิวดำคู่ใจมาปะทะกับ Mater Suspiriosum ที่โบสถ์แห่งนี้

 

---

หนังไทยเกี่ยวกับพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์

 

Edit เพิ่ม: 9. คนแห่เจ้า (2023, ลลิตา พิมพ์จำปา, documentary, 32min, A+30)

 

หนังเกี่ยวกับพิธีกรรมเชิดสิงโตที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ขอนแก่น

 

10.ญาพ่อเฒ่า (2023, กัญญาภัค ตันฮวด, documentary, A+25)

 

เราได้ดูหนังเรื่องนี้ที่ LIDO ในเดือนก.ค. จำได้ว่าเป็นหนังเกี่ยวกับศาลเจ้าปู่มเหสักข์ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นศาลที่จังหวัดอะไร มีใครจำได้บ้าง เพราะพอเราไป google ดูแล้วเหมือนมีศาลแบบนี้ในหลายจังหวัดในภาคอีสาน

 

Edit เพิ่ม -- ตอนนี้คุณผู้กำกับได้มาให้ข้อมูลแล้วครับว่า เป็น "ศาลเจ้าปู่มเหศักดิ์ กวนแสน ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านบ้านบัวหลวง จังหวัดร้อยเอ็ด" ขอบคุณคุณผู้กำกับมาก ๆ ครับ

 

หนังไทยกลุ่มมายารัศมี

 

Edit เพิ่ม: 14. ค่ำคืนมหัศจรรย์ IN REFLECTION (2021, Thaweechok Phasom, 5min, A+30)

-------------

อันนี้เป็นคลิป “LITTLE MERMAID JIT PHOKAEW” เริ่มฝึกเดินด้วยตีน หลังจากที่เธอเพิ่งมีจิ๋มมีตีนเป็นของตัวเองเป็นครั้งแรกค่ะ 555

 

จริง ๆ แล้วเป็นคลิปที่เพื่อนถ่ายไว้ที่โรงพยาบาลในวันที่ 2 พ.ย.ค่ะ หลังจากเพิ่งผ่าตัดหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทในวันที่ 1 พ.ย. แล้วหมอให้เริ่มลองเดินออกจากห้องพักเป็นครั้งแรกในบ่ายวันที่ 2 พ.ย. รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเดินโดยมีเพลง WHEN I’M BACK ON MY FEET AGAIN (1989) ของ Michael Bolton กับเพลง COMING OUT OF THE DARK (1991) ของ Gloria Estefan บรรเลงประกอบการเดินไปด้วย 55555

 

ตั้งใจว่าจะลงคลิปนี้เพื่อฉลองที่ “แผลปิดสนิทแล้ว” ค่ะ แต่ก่อนอื่น เราขอจดบันทึกชีวิตของตัวเองในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนนะคะ

 

ช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากพอสมควร เพราะเมื่อวันอังคารที่ 14 พ.ย. หมอบอกว่าแผลเปิด ต้องเย็บ max stapler เพิ่มอีก 2 อัน แล้วหลังจากนั้นหมอก็ปิดพลาสเตอร์กันน้ำให้ แต่พอเช้าวันพุธที่ 15 พ.ย. เราก็สังเกตเห็นว่าพลาสเตอร์กันน้ำที่ปิดไว้ที่แผลตรงกลางหลังของเรา มันร่นขึ้นมาจากด้านล่างของพลาสเตอร์ แล้วมันก็ร่นขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเกือบถึงแผล เราก็เลยตัดสินใจไปที่คลินิกชุมชนที่อยู่ใกล้ ๆ อพาร์ทเมนท์เรา ซึ่งเป็นคลินิกของรัฐบาล แต่ทางคลินิกบอกว่าไม่มีพลาสเตอร์กันน้ำ เราต้องไปซื้อพลาสเตอร์มาเอง และเดี๋ยวคลินิกจะปิดตอนพักเที่ยง ให้เรากลับมาที่คลินิกตอนบ่ายโมง

 

เราก็เลยไปซื้อพลาสเตอร์กันน้ำที่ร้านขายยา และกลับไปรอที่อพาร์ทเมนท์จนถึงบ่ายโมง แล้วค่อยกลับไปที่คลินิกชุมชน ซึ่งหมอที่คลินิกก็ทำแผลให้เราอย่างดีมากค่ะ

 

แต่พอเช้าวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย. เราก็สังเกตว่า พลาสเตอร์กันน้ำมันเริ่มร่นขึ้นมาเรื่อย ๆ อีกแล้ว คือยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งร่นขึ้นเรื่อย ๆ เท่านั้น เราก็เลยจิตตกอย่างมาก เพราะว่าถ้าหาก “เรามีสามี” เราก็คงให้สามีทำแผลให้เรา ปิดพลาสเตอร์กันน้ำให้เราใหม่ได้ในทุก ๆ วัน ไม่ต้องมาประสาทเสีย สติแตกกับพลาสเตอร์กันน้ำที่ร่นขึ้นมาเองเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วันอย่างนี้

 

เราก็เลยลังเลว่า หลังจากนี้เราจะต้องไปทำแผลที่คลินิกชุมชนทุกวันเลยไหม ทั้งวันพฤหัสบดี, ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์, จันทร์ เลยหรือเปล่า ทำไมชีวิตสาวโสดมันยากลำบากอย่างนี้คะ อยากให้มีคนเปิดให้เช่าผัวรับจ้างอะไรทำนองนี้มากค่ะ จะได้จ้างให้มาเป็นผัวเราเพื่อทำแผลให้เราในช่วงนี้ 555

 

เราก็เลยตัดสินใจลองเอาพลาสเตอร์กันน้ำแบบอันเล็ก ๆ ที่ใช้พันปลายนิ้วมืออะไรทำนองนี้ แปะไว้ที่ด้านล่างของพลาสเตอร์กันน้ำที่กลางหลังของเรา เผื่อว่าพลาสเตอร์อันเล็กมันจะช่วยสกัดกั้นการร่นขึ้นเรื่อย ๆ ของพลาสเตอร์อันใหญ่ได้

 

แต่หลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง เราก็สังเกตว่า พลาสเตอร์อันใหญ่มันก็ร่นขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ดี เราก็เลยแปะพลาสเตอร์อันเล็กอันที่ 2 ไปที่ด้านล่างของพลาสเตอร์อันใหญ่ เพื่อกันการร่นขึ้นเรื่อย ๆ แต่เราก็รู้สึกประสาทเสียมาก

 

และหลังจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง เราก็พบว่า พลาสเตอร์อันใหญ่มันก็ยังร่นขึ้นอยู่ดีนั่นแหละ เราก็เลยแปะพลาสเตอร์อันเล็กอันที่ 3 ไปเลย แบบว่า “มึงไม่หยุดร่น กูก็ไม่หยุดแปะ” “ฉันสู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับ” ของจริง และก็รู้สึกประสาทแดกกับชีวิตมากเหมือนกัน

 

อย่างไรก็ดี พอเราลองแปะพลาสเตอร์อันเล็กไปเอง 3 อันที่ด้านล่างของพลาสเตอร์อันใหญ่ มันก็เหมือนจะช่วยสกัดกั้นการร่นขึ้นของพลาสเตอร์อันใหญ่ได้ในที่สุดค่ะ เราก็เลยอาบน้ำในคืนวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย.ได้โดยไม่ต้องถ่อไปทำแผลที่โรงพยาบาลในกลางดึกอีก

 

และหลังจากนั้นในวันต่อ ๆ มา  เราก็พบว่าพลาสเตอร์อันใหญ่มันดูเหมือนว่าไม่ได้ร่นขึ้นมาอีกแล้วค่ะ เพราะพลาสเตอร์อันเล็ก ๆ 3 อันที่เราทยอยแปะไปด้วยตัวเอง เราก็เลยไม่ต้องกลับไปคลินิกชุมชนหรือโรงพยาบาลเพื่อให้เขาทำแผลอีก รู้สึกว่าเป็นความสำเร็จอันเล็ก ๆ ของการใช้ชีวิตโดยไม่มีผัวค่ะ 55555

 

เมื่อวานนี้ ซึ่งตรงกับวันอังคารที่ 21 พ.ย. เราก็ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลตามนัด เพื่อให้หมอดูแผลผ่าตัด แล้วหมอก็บอกว่าแผลปิดสนิทแล้วค่ะ ไม่ต้องแปะพลาสเตอร์กันน้ำที่แผลแล้ว ดีใจสุดขีดมาก ๆ เลยค่ะ อย่างไรก็ดี เราก็ยังคงปวดหลังและปวดแผลอยู่เป็นระยะ ๆ และต้องห้ามทำอะไรนู่นนั่นนี่อีกเยอะมากจนกว่าจะครบ 3 เดือนหลังผ่าตัดค่ะ คือแผลอาจจะปิดสนิทแล้วก็จริง แต่เราก็ยังไม่สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้อยู่ดีจนกว่าจะครบ 3 เดือนหลังผ่าตัดค่ะ วันนี้ก็ยังมีเจ็บ ๆ อยู่

 

อย่างไรก็ดี พอหมอบอกว่าแผลปิดสนิทแล้ว เราก็เลยมีความสุขมาก ๆ ค่ะ หลังจากเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับความประสาทแดกและเสียสติกับพลาสเตอร์กันน้ำที่มันร่นขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้วเราเปลี่ยนมันด้วยตัวเองไม่ได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

เมื่อวานนี้เราก็เลยให้รางวัลกับตัวเองด้วยการดูหนังโรง 3 เรื่องค่ะ ซึ่งได้แก่ DIGIMON 02: THE BEGINNING (2023, Tomohisa Taguchi, Japan, animation, A+30), NEW GODS: YANG JIAN (2022, Ji Zhao, China, animation, A+30) และ DUMB MONEY (2023, Craig Gillespie, A+30)

 

แต่ก็เกิดเรื่องระทึกขวัญเมื่อวานเช่นกัน เพราะก่อนที่เราจะเข้าไปดู NEW GODS: YANG JIAN นั้น เราได้กินอาหารที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดแห่งหนึ่งที่เราเคยกินประจำ และเราก็พบว่า มีแมลงวันตายอยู่หนึ่งตัวอยู่ท่ามกลางน้ำแข็งในแก้วน้ำอัดลมที่เราดูดไปหมดแก้วแล้วค่ะ เราก็เลยร้องวี้ดมาก ๆ เราก็เลยเอาแก้วน้ำที่มีซากแมลงวันตายนั้นไปให้พนักงานดู แล้วก็บอกพนักงานว่าคราวหลังช่วยระวังเรื่องนี้ด้วย แล้วเราก็รีบเข้าไปดูหนังค่ะ

 

เหตุการณ์ที่ร้านอาหารนั้นเกิดขึ้นเมื่อราว ๆ 13.30 น.ของวันที่ 21 พ.ย. ตอนนี้ผ่านมานานกว่า 24 ชั่วโมงแล้วโดยที่เราไม่ท้องเสีย เราก็เลยคิดว่าเราคงรอดตายจากแมลงวันตัวนั้นมาได้แล้วค่ะ

 

จริงๆ  แล้วเมื่อวานนี้เรากะจะดูหนังโรง 4 เรื่อง แต่พอดูไป 3 เรื่องแล้วรู้สึกเจ็บก้นมาก ๆ (คงเพราะตอนนี้เรานั่งแบบไม่ให้หลังต้องรับน้ำหนัก แต่ให้ก้นรับน้ำหนักอย่างเต็มที่) เราก็เลยตัดสินใจดูแค่ 3 เรื่องพอค่ะ

 

เมื่อคืนนื้ตื่นมากลางดึกแล้วก็รู้สึกคันแผลมากจนมือเกือบไปเกา เราก็เลยต้องตั้งสติไว้ว่าห้ามเกาเป็นอันขาด กลัวมาก ๆ ว่าตอนเรานอนเราจะเกาแผลจนเลือดกระฉูดโดยไม่รู้ตัว

 

อย่างไรก็ดี การที่แผลปิดสนิทแล้วก็เหมือนผ่านด่านสำคัญมาได้ 1 ด่านค่ะ ถึงแม้เราจะยังไม่สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติได้ และต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังสุดขีดต่อไปอีก 2 เดือนกว่า ๆ ก็ตาม

 

---

หนังสั้นมาราธอน 2023

TUE 31 OCT 2023 1 P.M.

.

1. ***Aftersun2 / วรัตต์ บุรีภักดี / 1.17 นาที A-

 

เหมือนปีนี้มีหนังเกี่ยวกับ “cinephiles” หรือหนังที่ “ตัวละครดูมีความรอบรู้เรื่องภาพยนตร์” ออกมาหลายเรื่องเหมือนกัน ซึ่งหนังในกลุ่มนี้รวมถึงหนังที่ตัวละครเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เองด้วย ไม่ว่าจะเป็นหนังนอกมาราธอน อย่างเช่น SHORTCOMINGS (2023, Randall Park), SINGLE 8 (2023, Kazuya Konaka, Japan) , ABOLISH หนังอินดี้แม่งกระจอก (2023, Tuhm Isarachon, Jessadawut Hemtanon, documentary) และหนังในเทศกาลมาราธอน อย่างเช่นหนังเรื่องนี้ ที่ตัวละครพูดถึง Jakrawal Nilthamrong และ Uruphong Raksasad

 

No comments: