SUICIDE SHOP (2015, Supawich Sappai, stage play, approximately B+ )
ร้านชำสำหรับ...คนอยากตาย (2015, ศุภวิชญ์
ทรัพย์ภัย)
--ยอมรับว่าไม่ค่อยเข้าใจละครเรื่องนี้
แต่เราไม่ได้อ่านตัวบทประพันธ์เดิมนะ เราก็เลยไม่รู้ว่าปัญหามันมีมาตั้งแต่ตัวบทประพันธ์เดิมหรือเปล่า
คือเราดูแล้ว รู้สึกว่าช่วงแรกมันก็เพลินๆ แต่มันขาดพลังหรือเสน่ห์อะไรบางอย่าง
แต่พอช่วงครึ่งหลังเราก็ง่วง ซึ่งอาจจะเกิดจากร่างกายเราไม่พร้อมเอง แล้วพอละครจบ
เราก็งงมากว่า จบแล้วเหรอ ตกลงละครเรื่องนี้ต้องการจะบอกอะไรเรา หรือว่าเราง่วงจนพลาดข้อมูลสำคัญอะไรไปเอง
--ชอบช่วงที่ลูกค้าคนแรกตายแล้วกลายไปเป็นวิญญาณ
เพราะว่าช่วงนั้นมันกระตุ้นให้เราคิดถึงความตายของเราเองว่า ถ้าหากเราตายไปแล้ว
วิญญาณเราจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่า และเราก็ชอบที่ตัวละครตัวอื่นๆต้องทำเหมือนกับว่ามีศพอยู่ตรงนั้นตามเดิมด้วย
ทั้งๆที่นักแสดงคนนั้นไม่ได้นอนเป็นศพอยู่ตรงนั้นแล้ว เราว่าจุดนี้มันตลกดี
--ดูแล้วนึกถึงหนังเรื่อง DOGTOOTH (2009, Yorgos Lanthimos) ในแง่ที่ว่า DOGTOOTH นำเสนอครอบครัวเผด็จการที่อาศัยอยู่ในโลกที่ตรรกะบางอย่างมันวิบัติไปแล้วเหมือนกัน
แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือว่า ตัวละครใน DOGTOOTH มีภาพลักษณ์เหมือนคนปกติ
คือภายนอกดูเหมือนคนปกติธรรมดาที่น่าไว้วางใจ แต่ภายในวิปริต แต่ตัวละครใน
SUICIDE SHOP เราว่ามันมีภาพลักษณ์ที่เพี้ยนไปจากคนปกติในระดับนึง
คือค่อนไปในทางหนังของ Tim Burton น่ะ แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสไตล์แบบไหนถึงจะ
work กับละครเวทีเรื่องนี้นะ บางทีสไตล์แบบนี้อาจจะ
work แล้วก็ได้
--สรุปว่าเราค่อนข้างเฉยๆกับละครเรื่องนี้นะ
มันเหมือนขาดพลังอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าหากเราเป็นคนทำละครเรื่องนี้
เราจะปรับปรุงจุดไหนดี เพราะการที่เราทั้งไม่ค่อยเข้าใจและไม่ค่อยอินกับละครเรื่องนี้
มันอาจจะเป็นปัญหาที่มีมาตั้งแต่ตัวบทประพันธ์ดั้งเดิมเลยก็ได้
เราชอบลักษณะของการต่อต้านเผด็จการในละครเรื่องนี้นะ
แต่เราเป็นคนที่มองการฆ่าตัวตายในแง่ดีมากๆน่ะ เราก็เลยไม่แน่ใจว่าปัจจัยนี้หรือเปล่า
ที่ทำให้เรารู้สึกจูนไม่ติดกับละครเรื่องนี้
No comments:
Post a Comment