MAE NAK PRA NAKORN (1970, Prince Anusorn Mongkolkarn, A+20)
แม่นาคพระนคร
--รู้สึกเหมือนมันเป็นหนึ่งในต้นธารของหนังผีตลกไทยประเภท
หอแต๋วแตก 555 คือเราไม่รู้ว่ามันมีหนังผีตลกแบบบ้าบอคอแตกเรื่องไหนของไทยที่ทำออกมาก่อนหน้านี้บ้างนะ
แต่ก็คงมีน่ะแหละ แต่เรายังไม่ได้ดูเท่านั้นเอง หนังผีของไทยก่อนหน้านี้ที่เราได้ดูก็คือ
แม่นาคพระโขนง (1959, รังสี ทัศนพยัคฆ์) ซึ่งทำออกมาเป็นหนังผีน่ากลัว
ไม่ได้เน้นตลกเสียสติแบบนี้
--แต่ต้นธารของหนังผีตลกแบบนี้มาจากไหน เราก็ไม่มีความรู้เหมือนกัน
แต่เราสงสัยว่ามันจะเกี่ยวข้องกับลิเก, ละครชาตรี หรือการแสดงพื้นบ้านของไทยอะไรก็เป็นได้หรือเปล่า
เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องนี้
--คือสิ่งที่เราว่ามันน่าสนใจของหนังผีตลกทำนองนี้
ก็คือการที่มันไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเล่าเรื่องมากนักน่ะ
แต่มันให้ความสำคัญกับการเฉไฉออกนอกเส้นเรื่องหลักเพื่อนำพาไปสู่สถานการณ์ตลก,
สถานการณ์เสียสติ, สถานการณ์บ้าๆบอๆต่างๆ เราก็เลยสงสัยว่าลักษณะประเภทนี้มันมีต้นธารมาจากการแสดงประเภทลิเกหรืออะไรทำนองนี้หรือเปล่า
การแสดงประเภทที่ความสำคัญไม่ได้อยู่แค่ที่พระเอก-นางเอก-ผู้ร้าย แต่อยู่ที่ “ตัวตลก”
หรือ “จำอวด” ในฉากนั้นด้วย มันคือการแสดงที่ผู้ชมไม่ได้ให้ความสำคัญว่า “อะไรจะเกิดขึ้นในฉากนั้น
พระเอกจะทำอะไร นางเอกจะรอดหรือไม่ นางอิจฉาจะโดนตบหรือไม่” แต่ผู้ชมกลับมุ่งความสนใจไปที่
“จำอวดจะยิงมุกตลกอะไรออกมาในฉากนั้น”
--สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้รวมถึง
1.การที่หมอผีปลุกผีในป่าช้าขึ้นมา เพื่อถามว่าแม่นาคอยู่ไหน
แล้วผีที่ถูกปลุกขึ้นมาก็บอกว่า ฉันเพิ่งตายมาได้สัปดาห์นึง ฉันไม่รู้จักแม่นาค
แต่ฉันเป็นนักร้องนะ คุณไม่เชื่อใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นฉันจะร้องเพลงให้คุณฟัง
แล้วผีในป่าช้าก็ร้องเพลงกับเต้น musical ให้หมอผีฟังหนึ่งเพลงเต็มๆ
คือฉากนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว
และเราก็แทบไม่เจออะไรอย่างนี้ในหนังไทยยุคปัจจุบันแล้วด้วย
เราอาจจะเจออะไรแบบนี้ได้แต่ในหนังบอลลีวู้ดยุคปัจจุบันเท่านั้น
2.พระเอกถูกลูกสาวมาเฟียบังคับให้ดูผู้หญิงเต้นระบำกึ่งเปลือยให้ดูหนึ่งเพลงเต็มๆ
ซึ่งฉากนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องเลยเหมือนกัน ไม่ตลก ไม่น่ากลัวด้วย
เน้นขายแต่ความเซ็กซี่ของสาวนักเต้นระบำเท่านั้น
แต่เราว่าฉากนี้ดูแล้วนึกถึงพวกหนังของ Jesse Franco นะ
ไม่รู้ว่าฉากนี้ได้รับอิทธิพลมาจากหนัง erotic arthouse ของยุโรปในยุคนั้นหรือเปล่า
3.ฉากแม่นาคยืดมือไปช่วยคนไม่ให้ตกตึก เอฟเฟคท์ในฉากนี้ทำให้นึกถึง HOUSE (1977, Nobuhiko Obayashi)
4.การที่แม่นาคมีลูกสมุนเป็นแดรกคูล่า
เพราะฉะนั้นถึงแม้แม่นาคจะกลัวหมอผีไทย
แดรกคูล่าซึ่งเป็นลูกสมุนของแม่นาคกลับไม่กลัวหมอผีไทย
5.การส่งแดรกคูล่าไปปราบคอมมิวนิสต์
6.ฉากผู้คุมในนรกนี่ นึกว่ากำกับโดย Haruehun Airry เพราะผู้คุมในนรกที่มีประมาณ
7-8 คนนี่ แต่ละคนล่ำสันบึกบึนมากๆๆๆๆ และทุกคนถอดเสื้อหมด
ใส่แต่ผ้าเตี่ยวแบบหยักรั้ง โอ๊ย ตายแล้ว ฉากนี้ฟินสุดๆเลยค่ะ
7.ช่วงท้ายเรื่องที่พระเอกต้องเผชิญกับการทดสอบความรักนี่
เราว่าหนังมันไปสุดทางมากเลยนะ
--สิ่งที่สงสัยก็คือว่า เราได้ดูหนังเรื่องนี้ถึง 145 นาที
แต่เราก็ยังสงสัยว่า ฟิล์มหนังมันหายไปสักสองม้วนหรือเปล่า เพราะเนื้อเรื่องบางช่วงมันกระโดดมากๆ
จนเราสงสัยว่าฟิล์มมันหายไปเป็นม้วนเลยหรือเปล่า
เนื้อเรื่องมันถึงได้กระโดดขนาดนั้น และที่สำคัญก็คือ
มีตัวละครสำคัญสองคนที่อยู่ดีๆก็หายไปจากเรื่องเลยด้วย นั่นก็คือ “คู่หมั้นพระเอก”
กับ “นางพยาบาลวัยชรา” ซึ่งเป็นตัวละครสำคัญ ที่อยู่ดีๆก็หายไปจากเรื่องเลย
เราก็เลยสงสัยว่าตัวละครมันหายไปจริงๆ หรือว่าฟิล์มหนังมันไม่ครบ
--สรุปว่า สาเหตุสำคัญที่ชอบหนังเรื่องนี้ ก็คือรู้สึกว่ารสชาติมันประหลาดดีน่ะค่ะ
มันมีอะไรหลายๆอย่างที่เราไม่ได้พบเจอแล้วในหนังยุคปัจจุบัน
คือถึงแม้ว่าหนังยุคปัจจุบันจะมีหนังผีเสียสติแบบของพจน์ อานนท์ แต่เราว่าหนังของพจน์
อานนท์มันไม่ได้ประณีตเท่าหนังอย่างแม่นาคพระนครน่ะ คือถึงแม้ว่ามันจะบ้าบอคอแตก มีอะไรเหี้ยๆห่าๆใส่เข้ามาขัดขวางพล็อตเรื่องหลักเหมือนกัน
แต่ความประณีตมันต่างกันน่ะ
แต่ในแง่นึง การดู “แม่นาคพระนคร” ก็ทำให้เรานึกถึงหนังมองโกเลียอย่าง
BEFORE RISING UP THE RANK (1965,
Lodongiin Tudev, A+25) นะ
เพราะสาเหตุสำคัญที่เราชอบหนังสองเรื่องนี้ คือ “ความแปลกแตกต่างจากหนังยุคปัจจุบัน”
น่ะ ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วหนังสองเรื่องนี้มันไม่ใช่หนังสไตล์ที่เข้าทางเราจริงๆหรอก
เพราะเราไม่ได้ชอบหนังตลกแบบนี้
สรุปว่า ถ้าหากเปรียบ “แม่นาคพระนคร” กับ BEFORE RISING UP THE RANK เป็นอาหารแล้ว เราก็รู้สึกว่ามันเป็นอาหารรสชาติปะแล่มๆที่แปลกดี
เป็นรสชาติที่เราแทบไม่เคยกินมาก่อน หรือนานๆถึงจะได้กินที เราก็เลยชอบมัน
แต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่รสชาติที่อร่อยถูกปากเราซะทีเดียว
2 comments:
Thank you. It is very interesting to read. I want to watch this movie since a long time. Where did you watch it? I know it is still available at Thai Film Archives and up to now never released commercially if i am not wrong. Regis (ThaiWorldView.com)
I saw it at the Thai Film Archive :-)
http://www.fapot.org/th/program.php?m=4&d=10
Post a Comment