IN THE MORNING (2015, Siroros Damjun, A-)

IN THE MORNING (2015, Siroros Damjun, A-)

เช้านี้...ที่การะเกด

ดูหนังเรื่องนี้ได้ที่นี่

https://www.youtube.com/watch?v=YLVTWisrdBo

1.ชอบมากที่มีคนไทยทำหนังเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสในวันที่ 13 พ.ย.ออกมาได้อย่างรวดเร็วมากเช่นนี้

2.พอดูหนังเรื่องนี้ต่อจาก THE CONTRAST (2015, Siroros Damjun, A+) แล้วก็พบว่ามันสามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้นะ คือเรามองว่าหนังทั้งสองเรื่องนี้เป็น “การทดลอง” ที่น่าสนใจทั้งสองเรื่องน่ะ มันเหมือนกับว่าหนังทั้งสองเรื่องนี้เป็นการทดลองนำสารเคมีสองอย่างมาโยนลงไปในหม้อเดียวกัน แล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

คือใน THE CONTRAST นั้น เราว่าการทดลองประสบความสำเร็จในระดับนึงนะ มันเหมือนกับเป็นการเอา “ภาพชายทะเล” กับ “ภาพที่พักที่อุดอู้ในกรุงเทพ” มาโยนลงไปในหม้อเดียวกัน แล้วมันก็เกิดปฏิกิริยาเคมีอะไรบางอย่างขึ้นมาในระดับนึงสำหรับเรา เพราะเราซึ่งเป็นคนดูรู้สึกได้ถึงความขัดแย้งกันในชีวิตจริงระหว่างการต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างอุดอู้ในกรุงเทพ กับความต้องการไปเที่ยวทะเล

แต่ใน IN THE MORNING นั้น เราว่ามันเป็นการทดลองที่น่าสนใจ แต่ผลการทดลองกลับออกมาไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่สำหรับเรา คือสารเคมีสองอย่างที่ถูกเอามาผสมรวมกันในที่นี้ คือ “ภาพบรรยากาศยามเช้าที่การะเกด + ภาพก้อนเมฆ” กับ “ประเด็นเรื่องการก่อการร้ายที่ปารีส” คือโดยลำพังตัวมันเองนั้น สารเคมีสองอย่างนี้มันมีความน่าสนใจในตัวมันเอง โดยเฉพาะในส่วนของ “ภาพบรรยากาศยามเช้าที่การะเกด” นั้น เราว่าโดยลำพังตัวมันเองโดดๆ มันทรงพลังมากพอสมควร เราว่าผู้กำกับคว้าจับพลังบางอย่างจาก “แสงแดดยามเช้า” ออกมาได้ดีมากๆ

แต่พอสารเคมีที่ทรงพลังสองอย่างนี้มันถูกโยนลงไปในหม้อเดียวกัน มันกลับไม่ค่อยทำปฏิกิริยาเคมีต่อกันน่ะ มันเหมือนอยู่แยกส่วนกันไปเลย มันเหมือนพอเราก้มหน้าลงไปดูในหม้อ แล้วก็เห็นสารเคมีสองอย่างอยู่แยกต่างหากจากกัน ไม่ผสมรวมกัน และไม่ก่อเกิดสารใหม่ หรือเกิดเป็นระเบิด เป็นฟองฟ่อดอะไรขึ้นมา

เราก็เลยไม่ได้ชอบหนังเรื่องนี้มากนักนะ แต่เราว่าเป็นสิ่งที่ดีที่มีคน “ทดลอง” ทำอะไรแบบนี้ คือมันต้องทดลองทำอะไรแบบนี้ไปเรื่อยๆน่ะแหละ มันถึงจะพบสารเคมีใหม่ๆ ปฏิกิริยาเคมีใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆขึ้นมาได้ มันต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆแบบนี้น่ะแหละ