SEA
OF ASH (2015, Michael MacGarry, South Africa, A+30)
หนังสั้นเรื่องนี้เล่าเรื่องของผู้อพยพจากแอฟริกาที่ลักลอบเข้ามาในยุโรป
ซึ่งเราเคยดูหนังที่พูดถึงประเด็นนี้มาแล้วประมาณ 100 เรื่อง
แต่เรื่องนี้แตกต่างไปจากเรื่องอื่นๆตรงที่มันไม่เล่าเรื่องอะไรเลย
เราดูแล้วก็งงมากๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมตัวละครไม่หางานทำ แต่ทำเป็นเดินดูสถาปัตยกรรม
ตึกรามบ้านช่องของยุโรปไปเรื่อยๆ แล้วก็เดินลงทะเลสวยๆ แล้วก็จบ
โดยที่ผู้กำกับบอกว่าหนังเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก DEATH IN VENICE ซึ่งถ้าไม่บอก เราก็คงไม่รู้
เพราะมันไม่มีอะไรคล้ายกับ DEATH IN
VENICE (1971, Luchino Visconti) เลย
ฉากที่ชอบสุดๆคือฉากที่ตัวละครคนดำเดินดูเพดานอาคารแห่งหนึ่ง
แล้วก็มีภาพกราฟฟิกเป็นรูปทรงเรขาคณิตสี่เหลี่ยมสามเหลี่ยมห้าเหลี่ยมหกเหลี่ยมอะไรไม่รู้มากมายปรากฏขึ้นที่เพดาน
คือฉากนั้นไม่รู้อีกแล้วว่ามันหมายความว่าอะไรอีกต่อไป
แต่นี่แหละคือตัวอย่างของฉากที่ทำให้เรารู้สึก hyperbolic paraboloid มากๆ
มีหนังอีกเรื่องที่ฉายในงาน Signes
de Nuit ปีนี้ที่พูดถึงประเด็นใกล้เคียงกัน ซึ่งก็คือหนังเรื่อง CONTINENTAL
DRIFT (2015, Nayeem Mahbub, Bangladesh/Belgium, A+10) ที่พูดถึงผู้อพยพที่รู้สึกแปลกแยกในยุโรปเหมือนๆกัน,
พูดถึงการเสียชีวิตในทะเลเหมือนๆกัน
และเน้นการถ่ายทอดบรรยากาศเหมือนๆกันด้วย
แต่หนังสองเรื่องนี้ก็เหมือนเป็นสิ่งเติมเต็มให้แก่กันและกัน เพราะ CONTINENTAL
DRIFT เล่าเรื่องผ่านทาง voiceover เท่านั้น
แต่ไม่ได้ใช้ภาพในการเล่าเรื่องเลย โดยภาพในเรื่องเหมือนเป็นการแทนสายตาของตัวละครขณะอาศัยอยู่ในเบลเยียม
ส่วน SEA OF ASH นั้นไม่มีเสียง voiceover ส่วนภาพใน SEA OF ASH นั้น
ก็อยู่ในภาวะก้ำกึ่งระหว่างการเล่าเรื่อง/การไม่เล่าเรื่อง
แต่ถ้าหากเทียบระหว่างสองเรื่องนี้แล้ว เราชอบ SEA OF ASH มากกว่า CONTINENTAL DRIFT หลายเท่านะ เราว่า CONTINENTAL DRIFT เนื้อเรื่องมันโหดร้ายก็จริง
แต่ทั้งวิธีการนำเสนอและเนื้อเรื่องของมันเป็นสิ่งที่ไม่แตกต่างจากหนังอีกหลายสิบเรื่องที่เราเคยดูมาแล้ว
อย่างเช่นเรื่อง ONCE YOU’RE BORN YOU CAN NO LONGER HIDE (2005, Marco
Tullio Giordana) ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้อพยพที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเหมือนๆกัน
แต่ SEA OF ASH นั้น วิธีการนำเสนอมันประหลาดมากๆ
และมีหนังเพียงไม่กี่เรื่องที่เราเคยดูมาที่สามารถแข่งกับ SEA OF ASH ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือหนังเรื่อง NAUFRAGIO (2010, Pedro
Aguilera, Spain) ที่เล่าเรื่องของผู้อพยพในแบบที่พิศวงพิสดารเหมือนๆกัน
คือดู SEA OF ASH จบแล้วเรารู้สึกว่ามันงดงามสุดๆน่ะ
โดยที่เราก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรหนังถึงทำให้เรารู้สึกแบบนั้น
เรารู้แต่ว่ามันก่อให้เกิดความรู้สึกที่งดงามมากๆในใจเรา
คือพอดูหนังแบบนี้แล้ว เราก็คิดถึงทฤษฎีที่เราตั้งขึ้นมาเองนะ นั่นก็คือทฤษฎีที่ว่า
มันมีหนังบางเรื่องที่เราไม่เข้าใจมัน แต่ “จิตใต้สำนึก” ของเราอาจจะเข้าใจมันก็ได้
หรือมันอาจจะกระทบอะไรบางอย่างในจิตใต้สำนึกของเราโดยที่เราไม่รู้ไม่เข้าใจก็ได้
หนังกลุ่มนี้มันถึงทำให้เราเกิดความรู้สึกรุนแรงมากๆ โดยที่เราไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกแบบนั้น
นอกจาก SEA OF ASH แล้ว หนังที่กระทบใจเราอย่างรุนแรงโดยที่เราไม่เข้าใจอะไรมันเลย
แต่เหมือนจิตใต้สำนึกของเราจะเข้าใจมัน ก็มีเช่น
1.TAKE
THE 5:10 TO DREAMLAND (1976, Bruce Conner)
2.THE LAST BUS (2008, Maria Hengge, Germany)
3.SEA OF DESIRES (2010, Shota Gamisonia, Russia)
4.CROSS (2011, Marina Vroda, France)
2.THE LAST BUS (2008, Maria Hengge, Germany)
3.SEA OF DESIRES (2010, Shota Gamisonia, Russia)
4.CROSS (2011, Marina Vroda, France)
No comments:
Post a Comment