THE DANCING YOUNG (Liu Chun-ming, China, 97min, F)
1.หนังของพจน์
อานนท์ยังต้องพ่ายแพ้ราบคาบเมื่อเจอกับหนังเรื่องนี้ มีเพียงแค่ “LADY BOY
FRIENDS เพื่อนกันมันส์ดี” และ “ฅนมวย กับรักที่แตกต่าง” เท่านั้น ที่สามารถรับมือกับหนังจีนเรื่องนี้ได้
2.หลังจากหนังผ่านไปครึ่งเรื่อง ผู้ชมที่นั่งข้างๆเราจะพึมพำกับตัวเองทุกๆ
5 นาทีว่า “หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร” “หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร”
3.ภาพยนตร์บางเรื่องได้รับคำชมว่าเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมากๆ
เพราะความงดงามของมันเป็นสิ่งที่ต้องถ่ายทอดในรูปแบบ moving images เท่านั้น
มันไม่สามารถถ่ายทอดผ่านทาง “ภาพนิ่ง”, “ละครเวที”, “ตัวอักษร” ได้
หนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน
ความหีแตกของมันเป็นสิ่งไม่สามารถบรรยายเป็นตัวอักษรได้ คุณต้องเห็นมันในรูปแบบ moving images เท่านั้น
เห็นการเคลื่อนกล้องของมัน เห็นปฏิกิริยาที่นักแสดงมีต่อกล้อง เห็นการตัดต่อของมัน
แล้วคุณถึงจะเข้าใจว่ามันหีแตกยังไง
มันเกินความสามารถของเราที่จะถ่ายทอดเป็นตัวอักษรจริงๆ
4.แต่เป็นหนังเกรด F ที่เราดูแล้วฮามากนะ คือมัน “ฮา”
กับความลักลั่นทางภาษาภาพยนตร์ของมันตลอดเวลาน่ะ มันไม่เหมือนกับหนังเกรด F บางเรื่องที่ดูแล้วน่าเบื่อสุดๆ อย่าง POSTCARD FROM NOWHERE
คือ THE DANCING YOUNG เป็นหนังที่เหมาะฉายในเทศกาลมาราธอนมากๆ
ถ้าได้ดูกับเพื่อนๆ cinephiles แล้วต้องหัวเราะน้ำหูน้ำตาไหลกันอย่างรุนแรงทุกๆ
5 วินาทีอย่างแน่นอน
5.หาข้อมูลหนังเรื่องนี้ในอินเทอร์เน็ตไม่ได้เลย เป็นหนังที่ลับแลมากๆ
พอๆกับ ฅนมวย ของไทย
เราก็เลยเอารูปนี้มาใช้แทนตัวหนัง เพราะรูปนี้มันดูเหมือนรูป “แบบทดสอบไอคิว”
และหนังเรื่องนี้มีนางเอกเป็นสาวไอคิวสูง
อีกเหตุผลนึงที่เอารูปนี้มาใช้ประกอบ เพราะว่า การดูหนังเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังถูกทดสอบไอคิวจริงๆ
คือเวลาทดสอบไอคิว เราอาจจะทำข้อ 1-122 ได้ แต่พอถึงข้อ 123 เป็นต้นไป
เราจะพบว่า เราเริ่มหาความสัมพันธ์ระหว่างรูปต่างๆที่เราเห็นไม่ได้อีกต่อไป
มันเหมือนจะเชื่อมโยงกัน คล้ายกัน แต่เราไม่รู้ว่ามันเชื่อมโยงกันยังไง
เราก็เลยตอบไม่ได้ว่ารูปต่อไปมันควรจะเป็นรูปอะไร
การดู THE DANCING YOUNG ก็เหมือนกัน เพราะขณะที่ดู
เราจะเริ่มรู้สึกว่า เราเริ่มหาความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งต่างๆ
และช็อตต่างๆในหนังไม่ได้อีกต่อไป มันเหมือนจะมีเหตุผล
แต่เหตุผลนั้นก็อยู่เหนือความเข้าใจของเรา
ว่าทำไมแต่ละฉากในหนังเรื่องนี้ถึงออกมาเป็นแบบนี้
และทำไมฉากนี้ถึงมาต่อกับฉากนั้น เราตอบไม่ได้ว่าแต่ละสิ่งในหนังเรื่องนี้มันมีเหตุผลในการดำรงอยู่ของมันอย่างไร
มันเกินความสามารถทางสติปัญญาของเราจริงๆ
No comments:
Post a Comment