A
WOMAN AND HER CAR (2015, Loïc Darses, Canada, documentary, 29min, A+30)
ทรงพลังมากๆ มันเป็นหนังโฮมวิดีโอที่ถ่ายโดยผู้หญิงคนหนึ่ง (Lucie Tremblay) ที่ตัดสินใจเขียนจดหมายถึงผู้ชายคนหนึ่งที่เคยลวนลามทางเพศเธอตอนที่เธออายุ
8-12 ปี โดยตอนนี้เธอโตแล้ว และมีลูกสองคนแล้ว
และเธอก็ตัดสินใจว่าเธอจะต้องจัดการกับอดีตที่เลวร้ายนี้ ด้วยการเขียนจดหมายนี้และเอาจดหมายนี้ไปส่งให้ผู้ชายคนนั้นซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองที่ห่างไกล
ฉากที่ชอบมากคือฉากที่เราแทบไม่เห็นอะไรเลย มันเป็นตอนที่ Lucie ขับรถไปถึงเมืองนั้นแล้ว
และรู้ว่าตัวเองจะได้เจอกับผู้ชายคนนั้นแล้ว แล้วเธอก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
และร้องไห้อย่างรุนแรงออกมา โดยกล้องเหมือนถูกปัดออกไปไม่ให้เห็นหน้าเธอ
เราเห็นแต่สิ่งของอะไรสักอย่างบังกล้องอยู่ และได้ยินเสียงเธอร้องไห้อย่างรุนแรง “การไม่เห็น” ในฉากนี้เราว่ามันทรงพลังมากๆ
และมันแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของมนุษย์ที่เปราะบางคนหนึ่ง
เพราะก่อนหน้านี้เราจะได้เห็น Lucie ทำท่าทางมุ่งมั่นกล้าหาญอยู่ต่อหน้ากล้อง
เธอเหมือนกับสาวแกร่งที่พยายามทำใจฮึกเหิมก่อนจะกระโจนเข้าสู่สนามรบ
แต่ภายนอกที่ดูเหมือนฮึกเหิมนั้นจริงๆแล้วซ่อนความเปราะบางและเจ็บปวดอย่างรุนแรงอยู่
ฉากการเผชิญหน้ากับคนร้ายก็ดีมากๆ การที่คนร้ายในเรื่องนี้พยายามปฏิเสธความผิดของตัวเอง
และอ้างว่า Lucie เป็นต้นเหตุของการลวนลามเอง
ทำให้เรานึกถึงคนชั่วๆบางคนที่เราเคยเจอในเทศกาลภาพยนตร์ที่สามารถพูดปดต่อหน้าคนอื่นๆได้อย่างไม่ละอายใจแต่อย่างใด
ฉากวิวทิวทัศน์ข้างถนนในหนังเรื่องนี้ก็ดีมากๆ
การตัดต่อก็ดีมากๆ การใส่ฉาก Lucie ขณะเล่นกับลูกๆสองคนเข้ามาในหนังเรื่องนี้ในจังหวะเวลาที่เหมาะสมมันให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและดีงามมากๆ
ดูหนังเรื่องนี้แล้วทำให้นึกถึง TARNATION (2003, Jonatha Caouette) ในแง่ที่มันเป็นหนังที่สร้างจากโฮมวิดีโอเหมือนกัน
และเป็นหนังที่กำกับหรือตัดต่อโดยลูกชาย
โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักความผูกพันที่มีต่อแม่ของตัวเองเหมือนกัน
โดยอารมณ์หลักๆของหนังคือความเจ็บปวดในชีวิตของแม่
พอดู A WOMAN AND HER CAR กับ MOST OF US DON’T LIVE THERE (2015, Laura Marie Wayne,
Canada, documentary, A+25) ในเทศกาล Signes de Nuit ก็เลยทำให้นึกถึงหนังเรื่อง TU AS CRIÉ: LET ME GO (1997, Anne
Claire Poirier, Canada, documentary, 98min, A+30) ด้วย
เพราะหนังทั้งสามเรื่องนี้เป็นหนังสารคดีแคนาดาที่กำกับหรือถ่ายทำโดยผู้หญิงเหมือนกัน
และมีเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวในชีวิตของตัวเองเหมือนๆกัน โดยในกรณีของ MOST
OF US DON’T LIVE THERE นั้น หนังพูดถึงผู้หญิงคนนึงที่เหมือนจะเป็น
bipolar หรือมีอาการป่วยทางจิต
(เราเข้าใจว่าเป็นตัวผู้กำกับเอง) ส่วนในกรณีของ TU AS CRIÉ: LET ME GO นั้น ผู้กำกับเป็นแม่ที่ทะเลาะกับลูกสาวจนลูกสาวหนีออกจากบ้านและตายไป
ดู A
WOMAN AND HER CAR แล้วก็ทำให้นึกถึงความจริงที่ว่า
ความเจ็บปวดในวัยเด็กนี่มันไม่เคยหายไปเลยนะ ถึงแม้เวลามันจะผ่านไปนานมากแล้ว
ตัวเราเองก็ยังจดจำความโกรธเกลียดเคียดแค้นที่มีต่อคนบางคนในวัยเด็กได้อย่างชัดเจนแม่นมั่นไม่เลือนลางเลย
ถึงแม้เวลามันจะผ่านไปนาน 30 กว่าปีแล้วก็ตาม
แล้วพอเราได้คุยกับเพื่อนๆบางคนที่เคยเรียนโรงเรียนประถมเดียวกับเรา
เราก็พบว่าเพื่อนๆของเราก็ยังคงจดจำความชั่วช้าสารเลวของเพื่อนบางคนและครูบางคนในวัยประถมได้ดีมากๆเลยด้วย
เมาท์กันไม่หยุด แต่พวกเรายังโชคดีที่ไม่ได้เจออะไรเลวร้ายสุดๆเหมือนอย่าง Lucie
ในหนังเรื่องนี้
ความโกรธเกลียดเคียดแค้นชิงชังที่พวกเรามีต่อคนบางคนเมื่อ 30 ปีก่อนก็เลยไม่ต้องระบายออกด้วยการเขียนจดหมายบอกคนๆนั้น
อย่างเราก็ทำเพียงแค่คอยย้ำเตือนตัวเองเสมอๆว่าใครเคยทำเลวกับเรา
เพื่อที่เราจะได้ไม่ไปยุ่งกับมันโดยไม่จำเป็น หรือไม่เผลอไปขอความช่วยเหลือหรือญาติดีกับมันโดยไม่จำเป็น
No comments:
Post a Comment